พื้นที่ครอบคลุมสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (สถานีหลัก) ในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2

[kaentong]

พื้นที่ครอบคลุมสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (สถานีหลัก)
ในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2

ระยะที่ 1

เดือนเมษายน 2557
สถานีหลัก : กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เชียงใหม่ สงขลา

[kaentong]

เดือนพฤษภาคม 2557
สถานีหลัก : อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ระยอง

[kaentong]

เดือนมิถุนายน 2557
สถานีหลัก : สิงห์บุรี สุโขทัย ขอนแก่น อุดรธานี

[kaentong]

ระยะที่2

เดือนสิงหาคม 2557
สถานีหลัก : ร้อยเอ็ด เชียงราย สระแก้ว นครสวรรค์

[kaentong]

เดือนตุลาคม 2557
สถานีหลัก : นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง ลำปาง

[kaentong]

เดือนธันวาคม 2557
สถานีหลัก : สกลนคร สุรินทร์ น่าน เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์

[kaentong]

เดือนกุมภาพันธ์ 2558
สถานีหลัก : กาญจนบุรี ชุมพร ตราด มุกดาหาร ตาก

[kaentong]

เดือนเมษายน 2558
สถานีหลัก : แม่ฮ่องสอน ระนอง เลย ชัยภูมิ แพร่

[kaentong]

เดือนมิถุนายน 2558
สถานีหลัก : สตูล อุตรดิตถ์ บึงกาฬ ศรีสะเกษ ยะลา

[kaentong]

อะไรคือ ทีวีดิจิตอล

อิสริยะฝ่ายวิจัย บริษัท Siam Intelligence Unit กล่าวย้อนไปยังระบบทีวีในปัจจุบันที่เรียกว่า ‘ฟรีทีวี’ ทั้งหกช่อง ฟรีทีวีเหล่านี้ออกอากาศด้วยคลื่นที่ส่งผ่านอากาศ จากเสาโทรทัศน์ต้นใหญ่ๆ ที่อยู่ตามภูเขาสูง ไปยังเสาก้างปลาหรือว่าเสาหนวดกุ้งตามบ้านเรือน วิธีการส่งคลื่นแบบนี้มีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า “ทีวีภาคพื้น” ภาษาอังกฤษเรียก Terrestrial Broadcasting ซึ่งก็มีความหมายตรงตัวว่าคลื่นส่งไปมากันบนผิวโลก ไม่ได้ส่งขึ้นอวกาศแล้วยิงลงมาแบบดาวเทียม

ระบบทีวีภาคพื้นของไทยในปัจจุบันใช้การเข้ารหัสแบบอนาล็อกซึ่งถูกคิดค้นมานานหลายสิบปีแล้ว การเข้ารหัสแบบอนาล็อกมีข้อเสียคือ การส่งสัญญาณทีวีหนึ่งช่องต้องใช้ช่วงคลื่นกว้างมาก ทำให้มีจำนวนช่องน้อยเพราะคลื่นมีจำกัด (และเป็นเหตุผลข้อหนึ่งว่าทำไมเมืองไทยถึงมีฟรีทีวีแค่หกช่อง) นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องคลื่นรบกวนจนสัญญาณภาพไม่ชัดในบางพื้นที่อีกด้วย

เมื่อเทคโนโลยีด้านการส่งสัญญาณทีวีพัฒนามากขึ้น จึงเกิดวิธีการส่งสัญญาณทีวีแบบใหม่ขึ้นมา 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

กลุ่มแรกคือ ทีวีผ่านดาวเทียม ที่ทุกคนคงคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว ข้อดีคือมีจำนวนช่องได้มาก ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย (และไปไกลถึงประเทศเพื่อนบ้าน) แต่ก็จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มทั้งจานดาวเทียม และกล่องรับสัญญาณดาวเทียม ซึ่งปัจจุบันมีขายแพร่หลายทั่วไป เสียค่าใช้จ่ายหลักหนึ่งพันถึงสามพันบาทแล้วแต่จำนวนและความสามารถของอุปกรณ์

กลุ่มที่สองคือ เคเบิลทีวี หรือทีวีที่ส่งสัญญาณตามสายเคเบิลที่พาดบนเสาไฟฟ้า ทีวีระบบนี้มีจำนวนช่องได้มาก ไม่มีปัญหาฝนตกแบบดาวเทียม แต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ให้บริการอาจจำกัด และอาจต้องมีกล่องรับสัญญาณแบบดาวเทียมด้วยในบางกรณี

กลุ่มที่สามคือ ‘ทีวีดิจิตอล’ คือการส่งสัญญาณภาคพื้นแบบเดิม แต่เปลี่ยนมาเข้ารหัสแบบดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะ โดยคลื่นที่เคยให้บริการช่องอนาล็อกได้ 1 ช่อง สามารถส่งสัญญาณแบบดิจิตอลได้ถึง 40-50 ช่อง (กรณีของ กสทช. คือ 48 ช่อง) เปิดโอกาสให้มีช่องรายการใหม่ๆ ได้มากขึ้นมาก นอกจากนี้การส่งสัญญาณแบบดิจิตอลยังมีปัญหาเรื่องคลื่นรบกวนน้อยลง ภาพจึงคมชัดขึ้นตามไปด้วย

ทีวีดิจิตอลใช้หลักคิดแบบเดียวกับทีวีอนาล็อกในปัจจุบัน ส่งสัญญาณภาพและเสียงไปในอากาศ ใครจะดึงสัญญาณไปรับชมก็ไม่ปิดกั้น และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกแรกเข้า หรือรายเดือนเหมือนเคเบิลทีวีหรือดาวเทียม สถานีทีวีก็หารายได้จากการโฆษณาตามปกติ ส่วนรายการพรีเมียมแบบเก็บเงินก็ไปฉายบนเคเบิลทีวีหรือดาวเทียมแทน ซึ่งประชาชนที่สนใจรับชมก็เลือกซื้อ หรือจ่ายเงินกันเองโดยที่รัฐไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว

สรุปง่ายๆ ว่า ทีวีดิจิตอลถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนทีวีอนาล็อก เนื่องจากรูปแบบการทำงานเหมือนกันทุกประการ แต่คุณภาพดีกว่ากันมาก มีจำนวนช่องได้เยอะขึ้น ดังนั้นทุกประเทศที่ใช้ทีวีแบบอนาล็อกจึงต้องเปลี่ยนระบบการแพร่สัญญาณมาเป็นดิจิตอลให้หมด เพื่อนำคลื่นความถี่ที่มีจำกัดไปใช้ประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ แทน

[kaentong]

[kaentong]

[kaentong]

วันนี้วันที่ 3 กรกฏาคม 2557 เวลา 1400 เครื่องส่งทีวีดิจิตอลของ ททบ.ที่ จังหวัดสุโขทัย โครงข่ายที่ 2 ออกอากาศแล้วครับ และโครงข่ายที่ 5 คาดว่าคืนนี้จะออกอากาศได้