ศาลหลักเมืองพิจิตร สวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ในอุทยานเมืองเก่าพิจิตร บ้านเมืองเก่า ตำบลเมืองเก่า อำเภอเเมือง จังหวัดพิจิตร

[ตามรอยพุทธ]

ศาลหลักเมืองพิจิตร
สวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ในอุทยานเมืองเก่าพิจิตร
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพิจิตร
บ้านเมืองเก่า ตำบลเมืองเก่า
อำเภอเเมือง จังหวัดพิจิตร
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558

[ตามรอยพุทธ]

การตรวจสอบและค้นคว้าเชื่อว่าเป็นเมืองพิจิตรเก่า สร้างในสมัย พระยาโคตรบองประมาณปี พ.ศ. 1601 ภายในบริเวณกำแพงเมืองมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่เศษ มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วยกำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯ มีสวนรุกขชาติกาญจนกุมารซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2520 ทำให้ภายในบริเวณอุทยานแห่งนี้มีต้นไม้ร่มรื่นหลายชนิดเหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ

ศาลหลักเมือง

สร้างเมื่อพ.ศ.2520 อาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่าง จะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่" สภาพโดยรอบศาลจะมีต้นไม้มากมายดูร่มรื่นเย็นตา ในบริเวณยังมีศาลาสำหรับนักท่องเที่ยวพักผ่อนอีกด้วย

[ตามรอยพุทธ]

“ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน”

     ศาลหลักเมืองพิจิตร หลักโบราณทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ อยู่ในบริเวณอุทยานเมืองเก่าในปัจจุบันไม่พบหลักฐาน โดยการนั่งวิปัสสนาของหลวงปู่โง่น ...แต่ศาลหลักเมืองใหม่ทำด้วยไม้หลักประหารโจรจากคดีปล้นที่โด่งดังในการปิดตลาดอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วยกลุ่มโจรประมาณ 30 คน  หัวหน้าโจรชื่อ “เสือใบ กุลแพ” ถูกจับตัวได้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2508 นอกจากนั้นยังมีสมุนโดนจับกุมได้อีกหลายคน และถูกคณะปฏิวัติสมัยจอมพลถนอม  กิตติขจร สั่งประหารชีวิตโดยการสร้างหลักประหารใกล้ๆ ตลาดอำเภอท่าเรือ (สถานที่ปล้น) ในปี 2509 โดยการยิงเป้าหมู่ (เพชฌฆาต 1 ต่อ 1) ให้สัญญาณยิงพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน
     ผู้กำหนดพิธีการในการตั้งศาลหลักเมืองคือ หลวงปู่โง่น โสรโย เป็นผู้กำหนดฤกษ์ในการตั้งศาลหลักเมืองโดยการนำไม้หลักประหารโจรที่อำเภอท่าเรือมาทำเป็นท้าววิรุฬห์ พญาครุฑ พญานาคและพระอินทร์ ประดิษฐานไว้ที่ศาลหลักเมืองหลังใหม่ ในวันที่ 16 เมษายน 2511 เวลา 12.00 น. ตรงกับวันอังคาร แรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปีวอก จ.ศ.1330 มีการจารึกลงบนศิลาฤกษ์ ปรากฏไว้ที่ศาลหลักเมืองพิจิตร แต่ศิลาฤกษ์ดังกล่าวเป็นการจารึกดวงดาวในระบบสุริยยาตร์ ผู้เขียนขอนำมาวิเคราะห์ในระบบนิรายนะวิธี (Fixed Zodiac) เพราะเป็นปฏิทินดาราศาสตร์ที่ตรงกับดวงดาวบนท้องฟ้าเพื่อเป็นการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นข้อเท็จจริง จุดประสงค์เพื่อยกระดับความก้าวหน้า ความเป็นมาตรฐานและการวิวัฒนาการของวิชาโหราศาสตร์ไทยให้อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงของดวงดาวที่นักโหราศาสตร์ไทยต้องนำมาใช้สืบทอดต่อไปในอนาคต

การวิเคราะห์การตั้งศาลหลักเมืองพิจิตรตามหลักโหราศาสตร์ไทยระบบนิรายนะวิธี
 การตั้งศาลหลักเมืองวันนี้ถือเป็นวัน “พญาวัน” หมายถึงวันที่เข้มขลังเพราะเป็นช่วงแรกที่ดวงอาทิตย์จรย้ายราศีเข้าสู่แม่ธาตุไฟที่ราศีเมษ (36-zodiac_aries) ในตำแหน่งมหาอุจ+วรโคตมนวางค์ และตรงกับวันอังคารเดือน ๕ โดยดาวอังคารมีตำแหน่งเกษตรเป็นเจ้าเรือนราศีเมษแต่ในการวางลัคนาที่ราศีกรกฎแม่ธาตุน้ำ เพื่อให้ดวงอาทิตย์เป็นสิบแก่ลัคนาหรือจุดจอมฟ้า (อาทิตย์ตรงหัว) เพื่อให้ดวงอาทิตย์มีพลังสูงสุดนั้น (ต้องมิใช่เวลาเที่ยงตรง) ผู้เขียนมิทราบเจตนาในการวางฤกษ์มิให้มีเงาหัว ...ของมนุษย์ในเวลาเที่ยงวัน โบราณเรียกว่า “มัชฌันติกสมัย” (เที่ยงคืนตรง 24.00/เรียกว่า ...อัฒรัตติ) เพื่อให้เหล่าวิญญาณทั้งหลายสิงสถิตอยู่ที่ศาลหลักเมืองหรือไม่? (หรือรู้เท่าไม่ทัน) เพราะหลักในการสร้างเสาหลักเมืองของประเทศภูมิภาคตะวันออกบางประเทศต้องการให้วิญญาณมาสิงสถิตที่ศาลหลักเมือง

[ตามรอยพุทธ]

ประวัติศาลหลักเมืองพิจิตร
            ศาลหลักเมืองพิจิตรสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1601 สมัยพระเจ้ากาญจนกุมารผู้ครองนครไชยบวรแต่ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงไม่สามารถระบุสถานที่ตั้งได้อย่างแน่ชัด ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2507-2510 นายแสวง ศรีมาเสริม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรมีดำริที่จะบูรณปรับปรุงฟื้นฟูเมืองพิจิตรเก่าขึ้น และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและได้กำหนดให้มีการผังเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการเสริมสร้างและเป็นที่รวมจิตใจของชาวพิจิตร โดยหลวงปู่โงน โสรโย ได้นั่งฌานสมาธิเห็นที่ตั้งศาลหลักเมืองเก่า และเมื่อขุดลงไปพบซากไม้ที่ใช้ทำหลักเมือง และซากโครงกระดูกวัตถุโบราณอีกมากมายหลายอย่าง จึงพอสันนิษฐานได้ว่า บริเวณพื้นที่ตั้งศาลหลักเมืองปัจจุบันเป็นที่ตั้งศาลหลักเมืองสมัยที่พระยาโครตบอง ฝังไว้แต่เดิม

[ตามรอยพุทธ]

สร้างเมื่อพ.ศ.2520 อาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่าง จะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของ "พระยาโคตรตะบอง" ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่" สภาพโดยรอบศาลจะมีต้นไม้มากมายดูร่มรื่นเย็นตา ในบริเวณยังมีศาลาสำหรับนักท่องเที่ยวพักผ่อนอีกด้วย

ประวัติพระยาโคตรตะบอง
พระยาโคตรตะบอง เจ้ากาญจนกุมารหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เจ้าจันทร์”
เป็นโอรสของพระยาโคตมเทวราชขึ้นครองราชย์ประมาณปี พ.ศ. ๑๖๐๐
ในราชวงศ์ “โคตรตะบอง” ปกครองนครชัยบวรครั้งที่พระองค์เสด็จทางชลมารคตามลำน้ำน่านเก่า ถึงหมู่บ้านสระหลวงทรงเห็นประโยชน์ทั้งทางยุทธศาสตร์และการทำมาหากินของราษฎรจึงทรงดำริย้ายเมืองจากนครไชยบวรมาสร้างเมืองใหม่ ชื่อว่า “เมืองสระหลวง” หรือพิจิตรเก่า เมื่อ พ.ศ.๑๖๐๑ และพระองค์ทรงพระนามว่า พระยาโคตรตะบองเหมือนบรรพกษัตริย์สืบราชวงศ์ต่อมาอีกประมาณ ๒๐๐ ปี

[ตามรอยพุทธ]

คุณเพ็ญศิริ สังโวลี
และ
คุณชลิดา สังโวลี (น้องโบว์)
พาไปไหว้....ศาลหลักเมืองพิจิตร
สวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ในอุทยานเมืองเก่าพิจิตร
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพิจิตร
บ้านเมืองเก่า ตำบลเมืองเก่า
อำเภอเเมือง จังหวัดพิจิตร
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]

[ตามรอยพุทธ]