ชมรมนักวิทยุสมัครเล่นแก่นทอง จังหวัดขอนแก่น ความถี่ 144.750 MHz
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ชมรมนักวิทยุสมัครเล่นแก่นทอง จังหวัดขอนแก่น ความถี่ 144.750 MHz
»
สถานที่ท่องเที่ยวและคลังแห่งการเรียนรู้ทางพุทธศาสนา
»
พระเถรานุเถระ พระเกจิอาจารย์ และองค์ปู่ฤาษี
»
พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
3
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ (อ่าน 3463 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:07:46 »
พระครูญาณวราจาร
(หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย)
วัดถ้ำพญาช้างเผือก
บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:14:15 »
ประวัติ
พระครูญาณวราจาร
(หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย)
วัดถ้ำพญาช้างเผือก
บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
มีนามเดิมว่า
วิไลย์
นามสกุล
เตชะบุรมณ์
ถือกำเนิดเมื่อวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีระกา ตรงกับ
วันศุกร์ที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๖
ณ บ้านดงบัง ตำบลด่านช้าง อำเภอบัวใหญ่ (ปัจจุบันเป็นอ.ประทาย จังหวัดนครราชสีมา)
โยมบิดา คือ
คุณพ่อสงค์ เตชะบุรมณ์
โยมมารดา คือ
คุณแม่ทา เตชะบุรมณ์
มีพี่น้องร่วมบิดาและมารดาเดียวกันรวม ๙ คน เป็นผู้ชาย ๘ คน และผู้หญิง ๑ คน โดยหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ ๕ และมีน้องต่างบิดา ๓ คน เป็นผู้หญิง ๑ คน (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเล็ก) และผู้ชาย ๒ คน รวมจำนวนพี่น้องทั้งสิ้น ๑๒ คน หลวงปู่เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลบ้านดงบัง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้วออกมาช่วยเหลืองานของครอบครัว จนอายุได้ ๑๖ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ภายหลังท่านได้ลาสิกขากลับไปช่วยงานของครอบครัวอีก เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร หลวงปู่ไปเป็นทหารเกณฑ์ ๒ ปี เมื่อปลดประจำการแล้วก็กลับมาประกอบอาชีพทำไร่ไถนาดังเดิม
พ.ศ. ๒๕๐๑
ขณะอายุได้ ๒๕ ปี หลวงปู่ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนเข้าพรรษาของปีเดียวกันนั้น ท่านได้แปรญัตติมาเป็นฝ่ายธรรมยุติกนิกาย โดยประกอบพิธีอุปสมบทใหม่ เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เวลา ๑๙.๑๐ น. ณ วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระวินัยสุนทรเมธีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาศรี ขันตยาคโม เป็นพระกรรมวาจารย์ พระมหาเขียน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมิโย
พรรษาที่ ๑
(พ.ศ. ๒๕๐๑)
พรรษา แรกนี้หลวงปู่จำพรรากับหลวงปู่บึ้ง ที่เสนาสนะป่าในละแวกบ้านที่อ.บัวใหญ่ เนื่องจากอยู่ใกล้กับโยมบิดา มารดา หลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ออกเดินทางเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ มาจนถึงจ.อุดรธานี และได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดถ้ำกลองเพล ซึ่งหลวงปู่ขาวเพิ่งมาตั้งวัดถ้ำกลองเพล เป็นปีแรก
พรรษาที่ ๒
(พ.ศ. ๒๕๐๒)
จำพรรษาที่วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร กับหลวงปู่จันทา ถาวโร หลวงปู่ขาน ฐานวโร รวมพระเณรทั้งสิ้น ๗ รูป ตามความประสงค์ของหลวงปู่ขาว อนาลโย เนื่องจากหลวงปู่ขาวจำพรรษาที่นั้น เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ และได้ย้ายมาตั้งวัดถ้ำกลองเพล เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๑ ทำให้วัดร้างไป ไม่มีพระอยู่จำพรรษา ชาวบ้านชุมพล จึงเดินทางมากราบเรียนขอพระจากหลวงปู่ขาวไปจำพรรษา เมื่อออกพรรษาแล้วพระเณรทั้งหมด ก็เดินทางกลับมาวัดถ้ำกลองเพล
พรรษาที่ ๓ - ๑๑
(พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๑๑)
จำพรรษาที่วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเป็นอ.เมือง จ.หนองบัวลำภู) เพื่ออุปัฏฐากรับใช้ ศึกษาธรรม และปฏิบัติจิตภาวนากับหลวงปู่ขาว อนาลโย อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา ๑๑ ปี ในระหว่างนั้น หลวงปู่มีโอกาสได้พบและฟังธรรมะจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายองค์ ที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนหลวงปู่ขาว อาทิ หลวงปู่หลุย จันทสาโร และหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นต้น นอกจากนี้ หลวงปู่มีโอกาสเดินทางไปตามสถานที่ตางๆ ด้วย อาทิเช่น พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงปู่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยพักที่วัดพระศรีมหาธาตุ และได้พบกับพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่เมตตาหลวง) ซึงเคยอยู่ที่วัดถ้ำกลองเพลเช่นกัน จากนั้นได้ไปวัดอโศการาม โดยขนะนั้นท่านพ่อลี ธัมมธโร ยังมีชีวิตอยู่ แล้วเดินทางต่อไปจังหวัดจันทบุรี และพักอยู่ที่วัดเนินเขาแก้วกับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ในระหว่างนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ได้เสด็จมาบำเพ็ญพระกุศลที่วัดแห่งนี้ด้วย เนื่องจากอยู่ใกล้กับวังสวนบ้านแก้วของพระองค์
พ.ศ. ๒๕๐๘
หลวงปู่เที่ยววิเวกไปทางจังหวัดอุดรธานีและสกลนครโดยได้กราบนมัสการหลวงปู่ ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าอุดมสมพร และพักอยู่ที่นั้นประมาณ ๑๕ วัน จากนั้นได้ไปที่วัดป่าบ้านหนองผือ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำพรรษาเป็นเวลา ๕ ปี ก่อนท่านจะมรณภาพอีกด้วย
ก่อนเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๕๑๒
หลวงปู่กราบลาหลวงปู่ขาว เดินทางออกจากวัดถ้ำกลองเพล โดยตั้งใจจะไปออกหาประสบกาณ์ที่แตกต่างออกไป อย่างไรก็ตาม แม้หลวงปู่จะไม่ได้จำพรรษาที่วัดถ้ำกลองเพลอีกเลย แต่ก็ได้มากราบนมัสการและศึกษาธรรมะจากหลวงปู่ขาวอย่างสม่ำเสมอ
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:17:29 »
พรรษาที่ ๑๒ - ๑๗
(พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๕๑๗) จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองพวง ภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น
พรรษาที่ ๑๘ - ๒๒
(พ.ศ. ๒๕๑๘ - ๒๕๒๒) จำพรรษาที่วัดจันทร์ประสิทธิ์ บ้านสร้างเสี่ยน ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเป็นจ.หนองบัวลำภู)
พรรษาที่ ๒๓ - ๒๕
(พ.ศ. ๒๕๒๓ - ๒๕๒๕) จำพรรษาที่วัดพระบาทภูพานคำ (วัดพระใหญ่ เขื่อนอุบลรัตน์) อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
พรรษาที่ ๒๖ - ๒๗
(พ.ศ. ๒๕๒๖ - ๒๕๒๗) จำพรรษาที่เสนาสนะป่า ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ หลวงปู่ได้ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพลด้วย
พรรษาที่ ๒๘ - ปัจจุบัน
(พ.ศ. ๒๕๒๘ - ปัจจุบัน) นับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๘ จนถึงปัจจุบัน หลวงปู่จำพรรษาที่วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ มาโดยตลอด
ประวัติหลวงปู่ บันทึกด้วยลายมือ
ขอกราบนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์ (เกล้า)ขอโอกาสกล่าวประวัติความเป็นมาของชีวิตพอคร่าวๆ จำได้และจำไม่ได้บ้างเป็นของธรรมดา ไม่ใช่ผู้วิเศษพอที่จะจำได้ทุกสิ่งทุึกอย่างทั้งหมด ถ้ามีคนจำได้ไปให้อาตมากราบแทบเท้าด้วย
ประวัติของพ่อแม่นั้น ท่านเป็นคนมีถิ่นฐานอยู่อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันแยกออกเป็นอำเภอประทาย พ่ออยู่บ้านหนองค่าย แม่อยู่บ้านทุ่งมน ตำบลดูเหมือนจะเป็นตลาดไซอะไรจำไม่ได้ ตะวันออกอำเภอประทายใกล้ๆบ้านตลาดไซแถวนั้นแหละ อาตมาเกิดอยู่บ้านแม่นั้นแหละ ครอบครัวได้ถูกย้ายไปย้ายมาเหมือนพระกรรมฐานนี้แหละ พ่อตายจากไปตั้งแต่อาตมาอายุประมาณ ๓ - ๔ ขวบ สมัยก่อนนุ่งผ้าบ้างไม่นุ่งผ้าบ้าง จำได้ว่าพ่อตายด้วยโรคเพชร หมอแผนปัจจุบันเขาก็จะว่าโรคบาดทะยักอะไรทำนองนั้นแหละ พี่ชายไม่มีใครจำได้ ส่วนอาตมาหัวดีหน่อยก็เลยจำได้ เดี๋ยวนี้หัวดีก็เลยล้านไปเลย
พอพ่อตายแล้ว
ญาติพี่น้องก็รับมาอยู่บ้านหนองขามเตี้ย ซึ่งใกล้ๆ หมู่บ้านดงบัง บ้านห้วยคร้อ บ้านหญ้าคา บ้านห้วยยาง บ้านสาครก บ้านเก่างิ้ว บ้านหญ้าปล้อง เข้าสี่แยกโคกสี (เกล็ดลิ้น) แต่ก่อนขึ้นตำบลด่านช้าง ปัจจุบันแยกเป็นตำบลห้วยาง ได้มาเติบใหญ่อยู่ที่้บ้านขามเตี้ย
ต่อมาแม่ก็แต่งงานใหม่กับพ่อใหม่ที่อยู่บ้านดงบัง ตะวันตกหมู่บ้านหนองขามเตี้ยประมาณ ๒-๓ กิโล ก็เลยได้ย้ายไปอยู่กับพ่อใหม่ที่บ้านดงบัง หมู่ที่ ๑๑ หรือเท่าไหร่จำไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่บ้าน อยู่วัด ตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบัน
พ่อกับแม่อาตมามีผลผลิตถึง ๑๒ คนเลยทีเดียว พี่ชาย ๔ คน อาตมาเป็นคนที่ ๕ คนที่หกน้องสาวมีชีวิตอยู่บ้านดงบัง คนที่เจ็ดแปดเก้า เป็นผู้ชาย คนที่สิบเป็นผู้หญิงตายตั้งแต่ยังเด็ก คนที่สิบเอ็ดชาย สิบสองชาย รวมเป็นชาย ๑๐ หญง ๒ คน หญิงเหลือ ๑ คน คนที่ ๒ ตายแต่เด็กๆ พ่อเก่ากับแม่ได้ผลผลิตเก้าคน แม่กับพ่อใหม่ได้หญิง ๑ คน ชาย ๒ คน
ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ต้องพูดถึง (ต้องพูดถึง) มาไม่พูดก็ไม่รู้ เพราะไม่ใช่พระอรหันต์เขาว่า แต่บางหันก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ ทั้งเป็นกำพร้าทั้งเป็นกัมพลอย มันไม่ใช่ "เป็นกำพร้าพ่อแม่ยังเบิด เป็นกำพลอยลูกเมียมีพร้อม" บรรดาลูก ๑๒ คน อาตมารู้สึกว่า อาตมามีความทุกข์มากกว่าทุกคน ลำบากกว่าทุกคน จนเป็นเยื่อใยมาถึงทุกวันนี้แหละอาตมาไม่เคยลืมมันเลย คิดถึงความทุกข์ที่พ่อแม่พากินพายากพาลำบากลำบน อาตมาเหมือนเอามากินกับข้าวทุกคำเลยทีเดียว สมน้ำหน้าตัวเอง อยากเกิดมาทำไม ขอให้ทุกข์ยิ่งๆ กว่านี้ด้วยเถอะ อาตมา ออกบวชเป็นพระได้อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เอาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้บนเกศเกศามาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๐๑ ซึ่งพ้นจากการเป็นทหารเกณฑ์มาแล้ว ๒ ปี เมื่ออายุ ๒๕ ปีเต็ม เขาว่าอะไรนะ อายุย่างเข้าเบญจเพส ว่าตามเขา พอบวชมาปีที่ ๑ ก็พรรษาอยู่ที่บ้าน
พอออกพรรษาคิดอยากจะออกแสวงหาครูบาอาจารย์ ก็คิดดำริในใจว่าครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบกว่าครูบาอาจารย์ที่ อยู่ปัจจุบัน จะมีไหมหนอ ในคืนคืนหนึ่งก็เลยฝัน ฝันว่าเราเป็นพระได้ไปเที่ยวๆ ไปๆ เดินทางไปทางทิศเหนือ เขาเรียกทิศอุดรเดินไปๆ ไปเจอวัดๆ หนึ่ง ในบริเวณวัดมองเข้าไปเห็นเป็นธาตุที่เขาใส่กระดูกอยู่ตามกำแพงวัด เราเดินเข้าประตูทางทิศเหนือ ไปเจอกุฏิหลังหนึ่งดูเป็นเชิงกุฏิคอนกรีตไม่ยกพื้น พอเข้าไปในกุฏิ มองเห็นตาผ้าขาวนั่งอยู่ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เห็นแสงสวางพุ่งขึ้นข้างบนเหมือนเราส่องไฟฉายขึ้นข้างบนสว่างเป็นช่อขึ้น ตาผ้าขาวเราเรียกว่าพ่อขาว พ่อขาวก็บอกว่าเสี่ยงทายดูวาสนา แต่เราไม่รู้ว่าวาสนาของใคร ที่เรามองเห็นนั้นสว่างไสวดี พอเสร็จแล้วพ่อขาวก็บอกว่าจะเสี่ยงดูวาสนาให้เรา แต่ปรากฏว่าแสงสว่างเหมือนกันแต่ไม่มากเหมือนอันก่อน แล้วก็รู้สึกตัวตื่นนอนขึ้น พออยู่ต่อมาก็เดินทางขึ้นไปทางจังหวัด อุดรธานีนั้นแหละ เดินทางไปเรื่อยๆ ออกจากบ้านบัวใหญ่ไปพักเมืองพล บ้านแฮด บ้านไผ่ ถึงอุดรธานีประมาณเดือนอ้าย เดือนธันวา ปี ๒๕๐๑ ไปถึงวัดถ้ำกลองเพล แต่ก่อนขึ้นกับจังหวัดอุดรธานี เดี๋ยวนี้แยกเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งหลวงปู่ขาว อนาลโยอยู่ที่นั้น ซึ่งท่านก็เพิ่งมาอยู่ใหม่ในปีนั้นเอง พุทธศักราช ๒๕๐๑ อาตมาก็บวชในปีนั้นเอง ตอนนั้นอายุหลวงปู่ขาวประมาณ ๖๐ กว่าๆ ไปถึงวัดถ้ำกลองเพลในหน้าหนาว ชาวนาเก็บข้าวเสร็จใหม่ๆ ให้ท่านผู้อ่านคิดถึงคำฝันกับตอนมาถึงวัดถ้ำกลองเพลดูจะเป็นยังไง
พออาตมามาถึงวัดถ้ำกลองเพลแล้วก็เข้ามอบตัวกราบไหว้หลวงปู่ขาว ด้วยความเคารพได้มอบกายถวายชีวิตในหลวงปู่ เป็นลูกศิษย์ลูกหาเป็นลูกเป็นเต้าของหลวงปู่ ฝึกหัดข้อวัตรปฏิบัติอุปัฏฐากด้วยหมู่ ด้วยคณะเป็นเวลาหลายปี วิสัยหลวงปู่ชอบสงบมาก ตอนเราเข้าไปอยู่ใหม่ๆ เวลานั่งฉันเป็นแถว ท่านนั่งอยู่ เวลาเราจะถามหรือพูดกัน ต้องกระซิบเบาๆ ไม่ให้มีเสียง ต้องมีสติระวังตัวอยู่ทุกเมื่อ เวลาเราทำผิดท่านจะ "ฮื้อ" คำเดียวเท่านั้นแหละเหมือนเตือนเราให้มีสติ เรา เคารพท่านมาก เรารักท่านมาก เราถือเหมือนพ่อของเราจริงๆ ท่านให้ความเมตตาให้ความสงสาร ให้ทุกสิ่งทุกอย่างในความรู้ในธรรมคำสั่งสอน จนท่านพูดว่า "ถ้ามรรคผลที่เราทำมาเอาให้ได้ เราก็จะเอาให้เจ้าทุกคนแหละ" เรา ถือท่านเสมือนพ่อ เราสงสัยดูอะไรในธรรม ข้อไหนลึกตื้นอย่างไร ท่านยินดีตอบยินดีแนะนำตลอด ให้ความรู้ให้ความเห็น ให้อุบาย ให้การแก้ไข จิตใจของเราคิดอย่างไรปรุงแต่งอย่างไร เรานำไปเล่าให้ท่านฟัง เราไม่ต้องอายขายหน้ามันเลย มันคิดเข้าบ้านเรื่องของกิเลส ตัณหา ท่านก็ช่วยแก้ไข ต้องทำแบบนั้น ต้องคิดแบบนั้น ต้องปฏิบัติแบบนั้น เราไม่ต้องอาย บางทีเรายกปัญหาขึ้นมาพูดแต่พูดไม่ให้มันถูก เรียกว่าพูดเป็นอุบาย เหมือนเราต้องการไข่มดแดง เราเอาไม้ไปแหย่ๆ เท่านั้นแหละ ไข่มดแดงก็จะร่วงหล่นลงมาให้เราได้กินเลย ฉันนั้นก็เหมือนกัน บางทีเราหวังจะแกล้งถามท่านให้ติด ท่านก็ไม่ติด ถามท่านหมดมรรคผลสวรรค์นิพพาน หลวงปู่ขาวเป็นคนโบราณหนังสือไม่ได้เรียน ท่านเขียนหนังสือไม่ได้ แต่อ่านออกท่องอ่านสวดได้หมด เราสู้ท่านไม่ได้ทุกอย่างเลย เรายอมท่านอย่างราบคาบเลย
อาตมาอยู่กับหลวงปู่ตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ ถึงปี ๒๕๑๒ อาตมาจึงออกจากท่านไป เป็นเวลาที่อยู่กับท่าน ๑๑ ปี คำพูดที่ท่านพูดเป็นคำดุ (ด่า) (อีตาอันนี้) มีคำเท่านี้ที่ว่าเรา คำอื่นไม่มี ท่านมีธรรมคือเมตตามาก จึงรู้สึกเย็นอยู่ตลอดเวลา บางครั้งไปวิเวกจิตใจเดือดร้อน พอกลับมาหันหน้าเข้าหาวัดถ้ำกลองเพลเท่านั้น รู้สึกจิตใจเย็นวาบเลย ที่อยู่กับท่าน ได้ยินได้ฟัง ได้รู้จักครูบาอาจารย์หมู่พวกคณะมากมาย ทั้งท่านมรภาพไปแล้วก็มาก ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มาก ก็เป็นอานิสงส์อยู่อย่างหนึ่ง ดีกว่าที่เราไม่ได้อยู่กับครูบาอาจารย์เลย วัน หนึ่งเราเดินเล่นเพลินๆ ก็คิดขึ้นมาว่าครูบาอาจารย์และพระเพื่อนฝูงองค์นั้นไปอยู่วัดป่า บ้านนั้นรูปนี้ไปอยู่ภูนั้น รูปนั้นไปอยู่ถ้ำนั้น ที่อยู่ภูหรือถ้ำนั้นมีศักดิ์ศรีกว่าสมฐานะกว่า มันบอกว่าฐานะศักดิ์ศรีของลูกศิษย์พระกรรมฐานจะต้องอยู่ภูหรืออยู่ถ้ำ อาตมาก็เลยอยู่ภูมาหลายภู อยู่ถ้ำมาหลายถ้ำ ปัจจุบันก็เลยมาตกค้าง อยู่วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ จนถึงขณะนี้ หัวคิดอันนี้มันคิดขึ้นมาเองไม่มีใครแนะนำพร่ำสอน
อาตมาได้ออกจากวัดถ้ำกลองเพลตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๑๒
พรรษา ๑๒ ก็ได้เที่ยววิเวกไปในที่ต่างๆ หลายแห่งหลายหนหายภูหลายเขา ไม่อาจจะนำมาเขียนลงในที่นี้ได้ ปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ มาจำพรรษาอยู่เขตอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ๕-๖ ปี ไปอยู่ภูเก้า วัดพระใหญ่ เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ๓ ปี ไปอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ สองครั้งๆ ละ ๑ พรรษา พรรษาสุดท้ายก็เลยมาอยู่ถ้ำพญาช้างเผือกนี้แหละในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๘
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:17:43 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #4 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:17:54 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #5 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:18:04 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #6 เมื่อ:
18 กุมภาพันธ์ 2015, 01:18:14 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #7 เมื่อ:
20 กุมภาพันธ์ 2015, 07:00:57 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #8 เมื่อ:
20 กุมภาพันธ์ 2015, 07:01:07 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #9 เมื่อ:
20 กุมภาพันธ์ 2015, 07:01:17 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #10 เมื่อ:
20 กุมภาพันธ์ 2015, 07:01:28 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #11 เมื่อ:
20 กุมภาพันธ์ 2015, 07:01:39 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #12 เมื่อ:
23 กุมภาพันธ์ 2015, 20:10:56 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #13 เมื่อ:
23 กุมภาพันธ์ 2015, 20:11:07 »
บันทึกการเข้า
ตามรอยพุทธ
Administrator
Hero Member
กระทู้: มากเกินบรรยาย
Re: พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
«
ตอบกลับ #14 เมื่อ:
23 กุมภาพันธ์ 2015, 20:11:44 »
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
2
3
ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ชมรมนักวิทยุสมัครเล่นแก่นทอง จังหวัดขอนแก่น ความถี่ 144.750 MHz
»
สถานที่ท่องเที่ยวและคลังแห่งการเรียนรู้ทางพุทธศาสนา
»
พระเถรานุเถระ พระเกจิอาจารย์ และองค์ปู่ฤาษี
»
พระครูญาณวราจาร (หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก บ้านปากช่อง ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
Tweet