วอนช่วย 2 ตายายสุดรันทดนอนตากฝน

[E20ZSY- สระบุรี]

วอนช่วย 2 ตา ยาย สุดรันทด นอนตากฝน


เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าว จ.ขอนแก่น ได้เดินทางไปที่กระต๊อบของสองตายาย ชื่อว่า นายแดง พิงไธสง อายุ 80 ปี และ นางอาน พิงไธสง อายุ 85 ปี สองสามีภรรยา ที่มีฐานะยากจนไร้ที่อยู่อาศัยและมาปลูกกระต็อบอยู่ที่ดินสาธารณะบึงทุ่งสร้าง ถนนรอบบึงทุ่งสร้าง ใกล้กับจวน ผวจ.ขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น  เพื่อนำเงินส่วนหนึ่ง และเครื่องอุปโภคบริโภคไปบริจาคให้สองตายายได้มีเงินไว้ใช้จ่าย และมีข้าว น้ำ ไว้กินในการประทังชีวิต


 
ทั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีผู้บุกรุกปลูกกระต็อบในที่ดินสาธารณะบึงทุ่งสร้างประมาณ 10 หลัง นานถึง 20 ปีขึ้นไป โดยใช้ที่ดินสาธารณะทำการเกษตรปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลาในบ่อน้ำ  เลี้ยงสัตว์ พร้อมกับอยู่อาศัย กระทั่งเทศบาลนครขอนแก่นได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 43(2) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เทศบาลนครขอนแก่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น จะเข้าทำการรื้อถอนอาคาร ในวันที่ 3 ก.ย. 2556 เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้เทศบาลนครขอนแก่นได้ส่งให้เจ้าหน้าที่มารื้อถอนได้ประมาณ 5 หลัง อีก 5 หลัง ยังไม่ยอมรื้อถอนเพราะยังหาสถานที่พักพิงแห่งใหม่ไม่ได้ โดยเฉพาะตาแดง และยายอาน ที่ไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างไร และสองตายายยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ที่ไหน และชีวิตทั้งคู่จะทำประการใด


 
เพื่อนบ้านที่ถูกให้รื้อถอนออกจากที่ดินสาธารณะบึงทุ่งสร้าง บอกว่า ตาแดงกับยายอาน  สองสามีภรรยามีฐานะยากจนได้มาอยู่ในชุมชนรถไฟ ถนนเทพารักษ์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อ 30 ปี ที่ผ่านมา เมื่ออยู่ที่ดังกล่าวได้ประมาณ 5  ปี ผู้บริหารเทศบาลนครขอนแก่นยุคนั้นได้บอกให้ตาแดง และยายอาน มาปลูกกระต็อบอยู่ในที่ดินสาธารณะติดกับถนนรอบบึงทุ่งสร้าง พร้อมกับให้ดูแลที่ดินสาธารณะแห่งนั้นไปด้วย โดยปลูกผัก หรือทำการเกษตร
เมื่อตาแดงและยายอานมาอยู่ในสถานที่ดินบึงทุ่งสร้างมานานมากกว่า 20 ปี ได้มีคนเร่ร่อนมาปลูกเพิงพักอยู่ใกล้กับตาแดงมากถึง 10 หลัง นอกจากนี้ตาแดงหูหนวกตาพร่ามัวแทบจะมองไม่เห็น  ขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน ส่วน ยายอาน ตาพร่ามัวเช่นกัน  แต่ยังพอมีแรงออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป และตาแดงกับยายอานมีโรคประจำตัว คือ มีโรคความดันสูง  ขณะนี้มีเพียงน้ำใจจากคนที่เข้ามาเที่ยวในที่สาธารณะบึงทุ่งสร้างช่วยเหลือนำข้าวปลา อาหารมาให้พอประทังชีวิตไปวันๆ
 
ยายอาน กล่าวว่า ตนเป็นแม่ม่ายมีลูกสาว 1 คน ส่วนตาแดงเป็นพ่อม่ายมีลูกสาว 2 คน ได้รู้จักกันพร้อมกับแต่งงานกันที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ในสมัยเมื่อ 50 ปี ที่ผ่านมา โดยทำงานรับจ้างมาโดยตลอด กระทั่งมาอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ลูกสาวทั้งสามคนได้ไปทำงานรับจ้างทั่วไปที่ต่างจังหวัด ซึ่งทราบว่าคนแรกไปมีครอบครัว จ.ชลบุรี และคนที่สองไปมีครอบครัวที่ จ.สระแก้ว ส่วนคนที่สามไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ซึ่งมาอยู่ที่กระต็อบในที่ดินสาธารณะบึงทุ่งสร้างไม่มีไฟฟ้าใช้ แถมต้องทนร้อน ทนแดดทนฝน ยามฝนตกน้ำรั่วเข้ามาในบ้าน ต้องทนทุกข์ยากอยู่ในกระต็อบหลังดังกล่าวมานานมากกว่า 20 ปี ลูกสามคนก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือมาเหลียวแลแต่อย่างไร ทุกวันนี้สองตายายอายุมากแล้วรอวันตายอย่างเดียวเท่านั้น
 
ตาแดง กล่าวว่า  ทุกวันนี้ได้เงินที่มาใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทต่อคน เงินที่ได้ต้องแบ่งมาซื้อปลายข้าวสารเก็บไว้หุงกิน ปลาร้า ปลาเค็ม เก็บไว้ประทังชีวิต ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง อาศัยเพียงกระต๊อบมุ่งหลังคาด้วยสังกะสีเก่าๆ กันแดดแต่ไม่กันฝน พร้อมจะพังได้ทุกเวลา ห้องน้ำและที่ขับถ่ายก็ไม่มี เวลาอาบน้ำก็ต้องเดินไปตักไกลจากที่พัก ขณะนี้ตนและยายอานถูกเทศบาลนครขอนแก่นขับไล่อ้างบุกรุกที่สาธารณะให้ออกไปจากที่ดังกล่าว ซึ่งตนและยายอานไม่มีญาติ ลูกสาวก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน  ต้องขอร้องให้เทศบาลนครขอนแก่นเห็นแก่มนุษยธรรมจัดหาที่พักพิงให้ตนและยายอานให้ด้วย เพื่อเข้าไปอาศัยอยู่ โดยมีข้อตกลงว่าขออยู่อาศัยแบบชั่วคราว จะไม่มีการปลูกสร้างบ้านที่ถาวรไปตลอดชีวิตด้วย.

http://www.dailynews.co.th/