ชมรมนักวิทยุสมัครเล่นแก่นทอง จังหวัดขอนแก่น ความถี่ 144.750 MHz

ข้อมูลข่าวสารทั่วไป => เตือนภัยใกล้ตัวและฟ้องด้วยภาพ => ข้อความที่เริ่มโดย: E20ZSY- สระบุรี ที่ 21 กรกฎาคม 2012, 10:25:36

หัวข้อ: รพ.สกลนครเต้น พ่อเฒ่า 74 ตายเซ่นมาเลเรียน รายแรกในรอบ 10 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: E20ZSY- สระบุรี ที่ 21 กรกฎาคม 2012, 10:25:36
รพ.สกลนครเต้น พ่อเฒ่า 74 ตายเซ่นมาเลเรียน รายแรกในรอบ 10 ปี
(http://image.ohozaa.com/i/910/ahDayw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wdny0fxgKcHqFe3z)
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ห้องปฏิบัติการฝ่ายระบาดวิทยา โรงพยาบาลเต่างอย จ.สกลนคร นายโสพณพงษ์ เหตานุรักษ์ นายอำเภอเต่างอย พร้อมด้วย นพ.อรรถสิทธิ์ พีรพัฒน์ดิษฐ์ รักษาราชการ ผอ.รพ.เต่างอย ได้เปิดวอร์รูมเรียกประชุมด่วนบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเต่างอย กรณีเหตุการเสียชีวิตของนายบุญกอง ปีลวย อายุ 74 ปี ราษฎรบ้านสามัคคี 108 ม.7 ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2555 ที่โรงพยาบาลสกลนคร จากการเจาะเลือดผู้เสียชีวิตพบเชื้อไข้มาลาเรีย และการติดเชื้อในกระแสเลือด ถือเป็นผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยไข้มาลาเลียรายแรกในรอบสิบปีของจังหวัดสกลนคร นอกจากนี้ยังพบว่าไข้มาลาเรียปีนี้กลับมาระบาดหนักด้วยเช่นกัน

นพ.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยไข้มาเลียในจังหวัดสกลนครตรวจพบแล้ว 131 ราย อยู่ในเขต อ.เต่างอย 4 ราย ทั้งหมดมีอาชีพเลี้ยงโค-กระบือ ซึ่งจะพาโคกระบือไปเลี้ยงในป่าลึกในเขตเทือกเขาภูพานเป็นประจำ จำนวนนี้ทางโรงพยาบาลก็ยังเป็นห่วงประชาชนที่สงสัยว่าป่วยด้วยโรคมาลาเรีย แต่ยังไม่เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

จากการวิเคราะห์จำนวนผู้ป่วยด้วยไข้มาลาเรียขณะนี้ยังไม่นิ่งมีแนวโน้มจะพบผู้ป่วยอีกอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ไข้มาลาเรียระบาดหนักจึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวัง สำคัญที่สุดเวลานอนทุกครั้งควรกางมุ้ง ประชาชนที่มีอาการไข้ โดยเฉพาะไข้สูงหนาวสั่นขณะอยู่ในป่าหรือเพิ่งเดินทางออกจากป่า ควรรีบไปรับการตรวจเลือดทันที และต้องบอกแพทย์ว่ามีประวัติเดินทางเข้าป่าหรือไม่

ขณะเดียวกันนายโสพณพงษ์ เหตานุรักษ์ นายอำเภอเต่างอย ก็ได้กำชับให้ทางโรงพยาบาลตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังโรคไข้มาลาเรีย กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง รวมถึงการให้ความรู้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเดินทางเข้าป่าเป็นประจำ ซึ่งกิจกรรมเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในตอนนี้ก็คือการควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด ลำดับต่อมาคือการควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว
ข้อมูล : นสพ.แนวหน้า