(http://upic.me/i/xk/img_7054_resize_exposure.jpg) (http://upic.me/show/61069238)
(http://upic.me/i/ig/img_7081_resize_exposure.jpg) (http://upic.me/show/61069239)
หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ (หลวงปู่ใหญ่)
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อหินทรายโบราณศิลปะล้านช้าง
เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่วัดของชาวหัวนาคำ
บ้านหัวนาคำ ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
(http://upic.me/i/b1/00_resize.jpg) (http://upic.me/show/61069201)
ประวัติความเป็นมาของ
หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ (หลวงปู่ใหญ่)
หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อหินทรายโบราณศิลปะล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่วัดของชาวหัวนาคำ แห่งเมืองน้ำดำมาเป็นเวลานานนับหลายร้อยปี ไม่ปรากฏนามว่าใครเป็นผู้สร้าง องค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีพุทธศิลป์ สวยงามถูกต้องตามพุทธลักษณะ มีอิทธิปาฏิหาริย์เป็นที่เลื่องลือมาตั้งแต่บรรพกาล โดยปรากฏมีเรื่องราวเล่าขานสืบต่อกันมามากมาย ชาวหัวนาคำจึงให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ มาเป็นเวลายาวนานหลายร้อยปีตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ กล่าวถึงประวัติที่เล่าขานสืบต่อกันมา องค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ เป็นพระพุทธรูปสำคัญ ที่บรรพบุรุษชาวบ้านหัวนาคำ อัญเชิญขึ้นประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่วัดในยุคนั้น จนต่อมาเมื่อเกิดภัยสงครามจนเป็นเหตุให้ต้องอพยพหลบหนีข้าศึกสงคราม บรรพบุรุษในยุคนั้นจึงได้ พร้อมใจกันนิมนต์พระภิกษุสงฆ์และอาราธนาอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำหมู่บ้านในยุคนั้นมาด้วย โดยได้นำขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง แล้วเดินทางจากแถบเมืองเก่า ซึ่งในปัจจุบันปรากฏชื่อว่า “เมืองชัยภูมิ” เล่ากันว่า เมื่อครั้งที่หลบหนีข้าศึกสงครามนั้น ด้วยขบวนที่อพยพกันมานั้นเป็นขบวนใหญ่ มีทั้งพระสงฆ์ ชาวบ้าน คนแก่ชรา และเด็กเล็ก จึงทำให้เกิดความล้าช้า แต่ด้วยความชาญฉลาดของหัวหน้าคณะผู้นำพาในครั้งนั้น เมื่อไม่เห็นหนทางใดที่จะพาชาวบ้านให้รอดพ้นภัยในครั้งนั้นได้ จึงได้นำพาชาวบ้านทำพิธีอธิษฐานขอพึงบารมีองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ ตามคติความเชื่อของคนโบราณในยุคนั้น เพื่อขอให้พ้นภัยจากข้าศึก ด้วยบารมีองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ ภัยสงครามผ่านพ้นไป ชาวบ้านจึงพากันเสาะแสวงหาที่ตั้งหลักปักฐานสร้างบ้านเรือน เมื่อได้พบที่อันเหมาะสมมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ (หนองโพธิ์) จึงได้ร่วมกันสร้างหมู่บ้าน ขึ้นในที่นั้น โดยตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านป่าผาก” (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ วัดป่าอัมพวัน) และได้เสาะแสวงหาสถานที่อันเหมาะสม ซึ่งไม่ห่างไกลจากหมู่บ้านนัก แล้วร่วมกันสร้างสิม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดป่าโนนพระ) เพื่อประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ จนเมื่อกาลเวลาผ่านไปหลายสิบปี เมื่อหมู่บ้านป่าผาก ได้เกิดอหิวาตกโรค (โรคห่า) จนเป็นเหตุให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้ย้ายถิ่นฐานออกแสวงหาสถานที่เพื่อสร้างหมู่บ้านใหม่ จนได้มาพบหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นน้ำคำ ปรากฎมีน้ำอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี จึงตกลงกันสร้างหมู่บ้านใหม่ โดยใช้ชื่อว่า บ้านหัวนาคำ แล้วได้พร้อมใจกันสร้างวัดขึ้น (วัดสว่างหัวนาคำ ) และอาราธนาอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ ขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธานคู่บ้านคู่วัด มาตั้งแต่บัดนั้น องค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ จึงประดิษฐานอยู่ที่บ้านหัวนาคำ เป็นปูชนียวัตถุล้ำค่าของชาวหัวนาคำ เป็นที่กราบไหว้สักการบูชาของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ความเลื่อมใสศรัทธาที่ชาวพุทธบริษัทมีต่อองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ นับวันยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้น ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ที่ปรากฏแก่ผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ทางวัดได้มีการจัดสร้างองค์หลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ (จำลอง) องค์ใหญ่ หน้ากว้าง 80 นิ้ว อัญเชิญไปประดิษฐานภายในวิหารหอพระ ที่ก่อสร้างด้วยไม้โบราณตามสถาปัตยกรรมแบบศิลปะล้านช้าง
คาถาบูชาหลวงพ่อพระพุทธวิชัยญาณ
ตั้งนะโม ๓ จบ ฯ
กาเยนะ วาจายะ เจตะสา รัตนัตตะยัญจะ พุทธะวิชะยะญาณัญจะ มะหาเตชัง มหาลาภัง มะหายะสัง เมตตาคุณัง อะหัง วันทามิ ฯ
โอม ศรี ศรี ชัยยะ ชัยโย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเสนียดจัญไร วินาสสันตุ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม ฯ