-
เทคโนโลยีโซนี่ D-SLT สู้กับกล้องมืออาชีพ D-SLR
(http://upic.me/i/xs/121618.jpg) (http://upic.me/show/36936997)
โซนี่ชูเทคโนโลยีไร้กระจก ดี-เอสแอลที “ทรานส์ลูเซนต์” ต่อกรเจ้าตลาด ดีเอสแอลอาร์ ยกจุดเด่นถ่ายต่อเนื่องกับวัตถุเคลื่อนที่ได้ดีกว่า
ตลาดกล้องถ่ายภาพชนิด D-SLR (ดีเอสแอลอาร์) หรือกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับยี่ห้อที่ครองตลาดมานาน และนักถ่ายภาพมืออาชีพนิยมใช้ ซึ่งแข่งขันกันอยู่เพียง 2 ราย ได้แก่นิคอนและแคนนอน มีรายงานว่า โซนี่ ที่มีกล้องแบบสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวอยู่ด้วย ได้ปรับตัวเน้นให้ความสำคัญกับกล้อง D-SLT โดย T หมายถึงทรานสลูเซนต์ มิเรอร์ เทคโนโลยี หรือเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสง ที่โซนี่พัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในกล้องมิเรอร์เลส ขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่าง
-
(http://upic.me/i/lg/h1rd0.jpg) (http://upic.me/show/36936998)
ผู้บริหารโซนี่ อธิบายว่า เทคโนโลยีกระจกโปร่งแสง ถือเป็นหัวใจหลักของกล้องโซนี่อัลฟ่า D-SLT (Digital Single Lens Translucent) ซึ่งทำให้มีความแตกต่างจากกล้องดิจิทัลชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ยี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด จุดเด่นที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ ระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา คุณสมบัติที่สำคัญต่อผู้ใช้ เนื่องจากบางสถานการณ์ วัตถุที่ต้องการจะถ่าย เคลื่อนที่อยู่ตลอด เช่น เด็กที่กำลังวิ่งเล่น หรือสัตว์เลี้ยง จำเป็นต้องใช้ออโต้โฟกัสที่ตอบสนองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระบบออโต้โฟกัสในกล้องดีเอสแอลอาร์ ทั่วไป จะหยุดทำงานเมื่อกระจกดีดขึ้น เพื่อบันทึกภาพ แต่กล้องโซนี่ดีเอสแอลที ระบบนี้ ยังทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสง ไม่มีการดีดของกระจกสะท้อนภาพ ขณะบันทึกภาพ หรือในขณะใช้ระบบไลฟ์วิว (ถ่ายภาพโดยเล็งจากจอมองภาพด้านหลัง) และขณะบันทึกภาพวิดีโอแบบความคมชัดสูง
-
(http://upic.me/i/5r/arsp1.jpg) (http://upic.me/show/36936999)
เทคโนโลยีนี้ทำให้กล้องโซนี่ชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ มีคุณสมบัติถ่ายภาพต่อเนื่องได้มากกว่าและเร็วกว่า รวมทั้งมีระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา” ผู้บริหารของโซนี่กล่าว
ปัจจุบันตลาดกล้องดิจิทัลชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ มีการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะกล้องมิเรอร์เลส (ไร้กระจก) เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนกล้องดีเอสแอลอาร์มีอัตราเติบโต 50%
กล้องชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ของโซนี่ คือ กล้องโซนี่ ตระกูล อัลฟ่า แบ่งออกเป็น สองประเภท คือ กล้อง เอ-เมาท์ ( ดี-เอสแอลที) และกล้องอี-เมาท์ หรือกล้อง NEX (เอ็นอีเอกซ์)
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/technology/121618 (http://www.dailynews.co.th/technology/121618)