กสทช.ยึดโยงเวทีสาธารณะ-ปรับร่างครอบงำฯจ่อกทค.ลงมติ 17 กรกฎาคม 2555 นี้
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการ แก้ไข ปรับปรุง ร่างประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. ... ว่า ภายหลังจากกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะทั้งจากภาคประชาชนและจากผู้มีส่วนได้เสีย เสร็จสมบูรณ์ ตามกติกาการรับฟังความความคิดเห็นสาธารณะ ที่มาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 บัญญัติแล้ว สำนักงาน กสทช. ได้รวบรวมความคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะ ทั้งจากเว็ปไซต์ และจากเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ นำมาประมวล และวิเคราะห์ พบว่า มีผู้แสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ก็คือ กลุ่มที่เห็นด้วยต่อการแก้ไขปรับปรุง ร่างประกาศฉบับดังกล่าว ซึ่งมีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา เป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขปรับปรุงร่างประกาศฯ และกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มที่แสดงความคิดเห็นแบบกลางๆที่ไม่ได้ระบุว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ต่อการแก้ไข ปรับปรุง ร่างประกาศฯ แต่จะเป็นลักษณะของการเสนอแนะ หรือตั้งข้อสังเกตต่อเนื้อหาสาระของร่างประกาศฉบับนี้
โดยสำนักงาน กสทช. ได้นำข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะดังกล่าวนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก (บอร์ด กทค.) ให้ทำหน้าที่กลั่นกรอง ปรับปรุง กฎ กติกา ต่างๆ ด้านกิจการโทรคมนาคม โดยคณะอนุกรรมการฯชุดนี้ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทั้งในและภายนอก สำนักงานกสทช. ซึ่งเห็นตรงกันว่าข้อเสนอแนะจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะนั้นมีประโยชน์ต่อการปรับปรุง แก้ไข ร่างประกาศฉบับนี้เป็นอย่างมาก จึงได้นำเอาข้อเสนอแนะเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาในการปรับปรุงแก้ไข เนื้อหา ของร่างประกาศฯให้มีความเหมาะสม จนทำให้ร่างประกาศฉบับนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จากนั้นก็นำข้อมูลต่างๆพร้อมร่างประกาศฯที่มีการแก้ไข ปรับปรุงตามข้อสังเกตเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กทค. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการที่บอร์ดกทค.แต่ละท่านศึกษาร่างฯ โดยคาดว่าบอร์ดกทค.จะสามารถลงมติต่อร่างประกาศดังกล่าว ในวันที่ 17 กรกฎาคม และจะส่งให้บอร์ดกสทช.พิจารณาในวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ก่อนที่จะนำร่างประกาศดังกล่าว ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป ซึ่งคาดไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้
“ ขอย้ำอีกครั้งว่าร่างประกาศฉบับนี้ไม่ได้ไปขัดพันธกรณีของไทยที่มีต่อองค์การการค้าโลกตามที่มีผู้กล่าวหาเนื่องจากมิใช่มาตรการกีดกันต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะไม่มีร่างประกาศฉบับนี้ ต่างชาติก็เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% ตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และที่สำคัญหากร่างประกาศฉบับนี้เกิดอุบัติเหตุด้วยเล่ห์กลใดๆก็ตาม ทางกสทช.ก็ยังต้องบังคับใช้ประกาศฯครอบงำกิจการฯ (ฉบับปัจจุบัน) ต่อไป ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่จะใช้ความพยายามล้มกระดานร่างประกาศฉบับนี้ ในทางตรงกันข้าม หากร่างประกาศนี้มีผลบังคับใช้ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการไปละเมิด พ.ร.บ.คนต่างด้าว ซึ่งมีบทลงโทษที่รุนแรง”
ดร.สุทธิพล กล่าวด้วยว่า หากมีการศึกษากฎหมายและแนวปฎิบัติของชาติต่างๆ ที่เป็นพี่ใหญ่ในวงการโทรคมนาคมของโลก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น แคนาดา ก็จะพบว่าประเทศเหล่านี้ได้วางมาตรการให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในกิจการโทรคมนาคม แต่ก็มีกฎเกณฑ์เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้ประกอบการในประเทศเพื่อให้เกิดความแข่งขันที่เป็นธรรมมิใช่เปิดเสรีโดยไม่จำกัดอย่างที่คนไทยบางกลุ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โดยที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน จะว่าไปแล้วร่างประกาศครอบงำฯฉบับนี้จึงเป็นเสมือนของแสลงสำหรับบริษัทต่างด้าวที่แปลงร่างเข้ามาเอาเปรียบบริษัทคนไทย จึงขอยืนยันว่าร่างประกาศฉบับนี้จะมิใช่ของแสลงของบริษัทต่างด้าวที่เข้ามาลงทุนในกิจการโทรคมนาคมอย่างบริสุทธิ์ใจ และเข้ามาแข่งขันภายใต้กฎกติกาเดียวกัน อย่างเป็นธรรม โดยไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งนี้มั่นใจว่าร่างประกาศฉบับนี้จะทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับประเทศชาติและคนไทยอย่างแท้จริง โดยไม่ไปขัดพันธกรณีระหว่างประเทศใดๆ
ที่มา : http://www.nbtc.go.th/wps/portal/NTC/ (http://www.nbtc.go.th/wps/portal/NTC/)!